นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เป็นประธานในพิธีลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง โครงการยกระดับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมยางพารา โดยมีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) บรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (สภาหอฯ) สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ร่วมลงนาม
นายอาคม กล่าวว่า นอกจากแบงก์รัฐ ซึ่งประกอบด้วย EXIM BANK และ บสย. จะเข้ามาเติมทุนให้แก่ผู้ประกอบการดังกล่าวแล้ว กระทรวงการคลังจะดึงธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารกรุงไทย เข้ามาร่วมเติมทุนในห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจยางพาราด้วย โดยในส่วนของ ธ.ก.ส. นั้น จะต้องเข้ามาช่วยส่งเสริมด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มคุณภาพของยาพาราแข่งขันในตลาดโลก
“อุตสาหกรรมยางพารานั้น สร้างรายได้เข้าประเทศราว 7 แสนล้านบาทต่อปี แต่การต่อยอดคุณภาพการผลิตเพื่อการส่งออกนั้น ยังมีปัญหาเรื่องของสภาพคล่องที่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ ดังนั้น ในส่วนของแบงก์รัฐจะต้องเข้ามาช่วยสนับสนุนโดยเฉพาะในห่วงโซ่อุปทานของผู้ผลิต ซึ่งจะช่วยทำให้ยางมีคุณภาพและราคาดี ซึ่งวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นการบูรณาการความร่วมมือของผู้ประกอบการกับเอ็กซิมแบงก์และ บสย. แต่ในระยะต่อไป คลังเองก็จะขอให้ ธ.ก.ส. และกรุงไทย เข้ามาช่วยเติมทุนในธุรกิจห่วงโซ่อุปทานของยางพาราด้วย”
โครงการดังกล่าว นับเป็นการสานพลังครั้งสำคัญระหว่างสถาบันการเงินของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังกับภาคอุตสาหกรรมไทย เพื่อแก้ปัญหาและยกระดับการพัฒนาสินค้าเกษตร ได้แก่ ยางพารา นำโดยสภาหอฯ และ สรท. กยท. และนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก เพื่อนำร่องยกระดับการพัฒนาเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยในกลุ่มสินค้ายางพารา ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ ของประเทศ
ทั้งในมิติของการสร้างงาน เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีเกษตรกรและผู้ที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องมากถึง 1.7 ล้านครัวเรือน หรือกว่า 6 ล้านคนทั่วประเทศ และในมิติของการสร้างรายได้เข้าประเทศ จากการส่งออกยางพาราแปรรูปขั้นต้นและการต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์ยางพาราในระดับปลายน้ำรวมเป็นมูลค่าส่งออกสูงถึงกว่าปีละ 6.8 แสนล้านบาท
โดยไทยนับเป็นผู้ส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์รายใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก อีกทั้งอุตสาหกรรมยางพารา โดยเฉพาะการผลิตในระดับต้นน้ำก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในประเทศจำนวนมหาศาล เนื่องจากมีการใช้ปัจจัยการผลิตในประเทศ (Local Content) สูงถึงกว่า 90% จึงกล่าวได้ว่า ยางพาราเป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยสร้างและกระจายรายได้ให้แก่ประชาชนคนไทยอย่างแท้จริงคำพูดจาก ฟรี เกมสล็อตทดลองเล่น
ด้านนายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ธนาคารพร้อมเติมทุนให้ผู้ประกอบการยางพาราโดยไม่จำกัดวงเงิน โดยอัตราดอกเบี้ยสำหรับรายใหญ่ รายกลางและรายเล็กจะอยู่ในอัตรา 6-7% ต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 12-18% ต่อปีคำพูดจาก ทดลองสล็อต pg